One2car.com
แอปพลิเคชัน One2Car
ทำนายราคารถของคุณ
4.5
21,133

5สาเหตุ ที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด

เรื่องเด่น

5สาเหตุ ที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด

          รถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมา ก็ย่อมมีการสึกหรอและเสื่อมสภาพเป็นเรื่องปกติ แต่ปัญหาที่เราไม่อยากเจอ และเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้ใช้รถคือ " รถสตาร์ทไม่ติด " ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้เจ้าของรถกังวล แต่ถ้าเรารู้สาเหตุและจุดที่เป็นปัญหา อย่างน้อยเราก็จะได้แก้ได้ถูกจุด ไม่โดนอู่หรือช่างซ่อมหลอกให้เปลี่ยนนู่นนี่นั่น สาเหตุหลักๆมีอะไรบ้างเรามาดูกันดีกว่าครับ

  1. แบตเตอรี่

สาเหตุที่ทำให้สตาร์ทไม่ติดสาเหตุอาจเกิดจากแบตเตอรี่อ่อนหรือหมด อาการของแบตอ่อนคือ สตาร์ทแล้วมีเสียงแกร๊กๆๆๆๆ วิธีเช็คก็คือให้ลองเปิดไฟในรถทั้งหมด ทั้งไฟหน้า ไฟเพดานในรถ ไฟเลี้ยว และขั้นตอนสุดท้ายให้บีบแตร หากแตรเสียงเบาลงกว่าปกติ และไฟที่หน้าปัด หรี่หรือดับเวลาเราสตาร์ท ก็แสดงว่าแบตเตอรี่อ่อนหรือหมด วิธีแก้คือ ลองเช็คที่ขั้วแบตเตอรี่ อาจจะขันน๊อตไม่แน่น หรือดูที่ช่องตาแมวบนแบตเตอรี่ จะมีสีบอกสถานะของแบตเตอรี่ หากเช็คแล้วพบว่าแบตหมด ก็ลองถอดแบตเตอรี่ไปชาร์จไฟ ถ้าชาร์จแล้วไฟไม่เข้าก็ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ครับ

 

  1. น้ำมันหมด

เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เราคาดไม่ถึง บางทีเรานั่งหาสาเหตุ นั่งวิเคราะห์ปัญหากันตั้งนาน ผลสุดท้ายนึกขึ้นได้ว่าเราลืมเติมน้ำมันเชื้อเพลิง เราสามารถดูได้จากไฟสัญลักษณ์ที่ขึ้นเตือน

 

  1. ไดสตาร์ทเสีย

หากรถที่ผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานาน ก็มีโอกาสที่ไดสตาร์ทเสื่อมได้เหมือนกัน สาเหตุที่ทำให้ไดสตาร์ทไม่ทำงานก็มีหลายสาเหตุ เช่น แปลงถ่านในไดสตาร์ทหมด หรือขดลวดภายในไหม้ อาการของไดสตาร์ทไม่ทำงานก็คือ สตาร์ทแล้วไม่มีเสียงอะไรขึ้น ทั้งๆที่แบตเตอรี่ก็ยังไม่หมด

 

  1. ไดชาร์จเสีย

หน้าที่ของไดชาร์จคือปั่นไฟเพื่อเข้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ และในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน เจ้าไดชาร์จจะเป็นตัวปั่นไฟเพื่อจ่ายกระแสไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าในรถยนต์ แต่ถ้าไดชาร์จเสีย ก็จะไม่สามารถปั่นไฟเพื่อเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่ได้ เมื่อแบตเตอรี่ไม่มีไฟ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด วิธีเช็คว่าไดชาร์จเสียหรือไม่ สามารถเช็คได้โดยการติดเครื่องยนต์ แล้วถอดขั้วแบตเตอรี่ออก หากเครื่องยนต์ดับ แสดงว่าไดชาร์จเสีย แต่ถ้าถอดขั้วแบตเตอรี่แล้ว เครื่องยนต์ยังคงทำงานปกติ แสดงว่าไดชาร์จยังปกติดีอยู่

 

  1. สาเหตุอื่นๆ
  • สายไฟชำรุด อาจเกิดจากใช้งานมานานจนฉนวนหุ้มขาด ทำให้ไฟรั่วและช๊อต ,หนูกัด ,สายขาดจากแรงสั่นสะเทือน
  • ลืมปิดไฟ เช่นไฟหน้า ,ไฟในรถ

ทั้งหมดนี้เป็นความรู้เบื้องต้นที่ผู้ใช้รถควรทราบไว้นะครับ เผื่อเป็นปัญหาที่เราสามารถแก้ไขได้เอง แต่ถ้าปัญหาไหนเหนือเกินกว่าความสามารถของเรา ก็ควรให้ช่างที่เชี่ยวชาญมีประสบการณ์มาซ่อมจะดีกว่าครับ

หากท่านใดกำลังมองหารถยนต์มือหนึ่ง และมือสอง สามารถคลิกเข้าชมได้ ที่นี่ มีรถหลายรุ่น ให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมจนจุใจแน่นอน



Champ Autospinn

Champ Autospinn

Content Writer

จากนักเขียนผู้ที่ชื่นชอบและหลงใหลในการแต่งรถ มาเป็นผู้เชี่ยวชาญตัวจริงเรื่องรถยนต์ ทั้งรถใหม่และรถมือสอง เก็บเกี่ยวความรู้ ประสบการณ์ และคลุกคลีอยู่ในวงการรถยนต์ ทั้งรถใหม่ และรถมือสอง มาเกินกว่า 10 ปี พร้อมแล้วที่จะมาแชร์เทคนิคและเคล็ดลับต่าง ๆ เกี่ยวกับรถยนต์ และนำเสนอสาระความรู้ดี ๆ ให้ผู้อ่านทุกท่านได้ติดตาม ผ่านเว็ปไซต์ยานยนต์ชื่อดัง อย่าง Autospinn และ One2car


ข่าวฟีเจอร์

แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า ‘ยังไงก็รอด’ ปี 2567 ต้นทุนแบตถูกลง 50%

แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า ‘ยังไงก็รอด’ ปี 2567 ต้นทุนแบตถูกลง 50%

เรื่องเด่น
เจาะแนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า EV จะกลายเป็นรถยนต์แห่งอนาคตจริงหรือไม่ ? ปฏิวัติการขนส่งได้อย่างไร เคลียร์ความสงสัยได้ในบทความนี้ผ่าแนวโน้มอนาคตยานยนต์ไฟฟ้า ...
ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า รถสันดาปมือสองจะตายจากเราไปหรือไม่?

ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า รถสันดาปมือสองจะตายจากเราไปหรือไม่?

เรื่องเด่น
เมื่อรถยนต์ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นกระแสหลักในประเทศไทย ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายพร้อมออปชั่นล้นๆ ก็ทำให้เกิดคำถามว่า ...
ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ตามวันเกิด พร้อมเวลาล้อหมุน

ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ตามวันเกิด พร้อมเวลาล้อหมุน

เรื่องเด่น
มาแล้ว! ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ใครยังไม่มีฤกษ์รับรถ รีบเข้ามา! ซินแสดูให้จริง อยากรู้เกิดวันนี้ควรออกรถวันเวลาไหนก็ย่อมได้ฤกษ์รับรถเดือนเมษายน ...

เเสดงความคิดเห็น

app-icon
app-icon
app-icon
ดูรถในฝันของคุณในแอป
ดาวน์โหลดแอปตอนนี้