การดูแลรักษารถยนต์ หลังจากใช้งานมาหนัก

กลับเข้าสู่โหมดปกติ หลังจากที่เราสนุกกับการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา เส้นทางที่เราไปอาจเจอกับสภาพถนนและสภาพอากาศที่เลวร้ายบ้าง ทั้งลุยฝน ลุยป่า ลุยหิน ลุยดินโคลน ขึ้นเขา ลงห้วย และอื่นๆอีกมากมาย คราวนี้คงถึงเวลาที่เราจะต้องดูแลรักษารถยนต์คู่ใจกันซะหน่อย หลังจากที่ผ่านศึกกันมาหนัก

• สี

ควรล้างด้วยแชมพูล้างรถและน้ำสะอาด หากทิ้งไว้นานคราบต่างๆที่เราไปลุยมา ทั้งคราบฝุ่นต่างๆ ฝนกรด มูลนก คราบน้ำปูน ยางมะตอย ซึ่งคราบสกปรกเหล่านี้อาจทำความอันตรายต่อพื้นผิวรถยนต์ได้ หลังจากล้างเสร็จเช็ดด้วยผ้านุ่ม แล้วเคลือบสีด้วยผลิตภัณฑ์ต่างๆที่มีขายตามท้องตลาด ในส่วนของภายในรถ ก็จัดการดูดฝุ่น ล้างผ้ายางปูพื้น ส่วนวิธีทำความสะอาดช่วงล่างก็ใช้วิธีอัดฉีด แต่หากท่านใดไม่สะดวกล้างเอง ก็ไม่ยากครับ ขับรถเข้าร้านคาร์แคร์เลยครับผม

• เบรกและช่วงล่าง

น้ำมันเบรก ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรก ดูว่าอยู่ในระดับที่กำหนดหรือไม่ หากน้ำมันเบรกลดจนต่ำกว่าระดับที่กำหนดมากเกินไป ให้หาสาเหตุก่อน ว่าที่น้ำมันเบรกลด เกิดจากสาเหตุใด (ผ้าเบรกสึก,เบรกรั่ว)

ผ้าเบรก ใช้วิธีดูที่เขี้ยวตรงบริเวณผ้าเบรกซึ่งจะต้องไม่ชนกันจานเบรก หากเขี้ยวใกล้กับจานเบรกมากเกินไปหรือชนกับจานเบรกเลย ก็แสดงว่าผ้าเบรกใกล้หมด หรืออาจใช้วิธีฟังเสียง หากเบรกแล้วมีเสียงเหมือนกับเหล็กไปขูดกับจานเบรก นั้นคือสัญญาณเตือนของผ้าเบรกหมด

โช้คอัพ ตรวจสอบดูความผิดปกติ ให้เราก้มดูที่แกนโช้ค ว่ามีคราบน้ำมันไหลซึมออกมาหรือไม่

• เครื่องยนต์และเกียร์

หากเส้นทางที่เราใช้รถเป็นทางขึ้นเขา หรือเส้นทางที่ต้องใช้รอบเครื่องยนต์สูงบ่อยๆ เมื่อเรากลับถึงบ้าน ก็ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และน้ำมันเกียร์ ทันที ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงระยะ

• ไส้กรอง

ตรวจเช็คทั้งไส้กรองอากาศ และไส้กรองแอร์ หากสกปรกไม่มากก็เคาะๆเอาเศษฝุ่นออก หากสกปรกมากก็เปลี่ยนใหม่ไปเลยครับ

การดูแลรถไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด รถก็เหมือนคนนั่นแหละครับ เมื่อเรามอมแมมเราก็อาบน้ำ เมื่อเราไม่สบายก็ไปหาหมอ รถก็เช่นเดียวกัน

สามารถติดตามข่าวสารอัพเดตเพิ่มเติมได้ ที่นี่

สามารถค้นหารถยนต์คุณภาพดีได้ ที่นี่